“องค์กรที่ดี หากอยากทำ BIM คนในองค์กรต้องมีชุดความคิดแบบ Growth Mindset”

จากการศึกษาของ Carol Dweck พบว่ามนุษย์เรามี Mindset หรือชุดความคิดอยู่ 2 ลักษณะ
นั่นคือ Growth Mindset และ Fixed Mindset

คนที่มี Fixed Mindset

  • เชื่อว่าแต่ละคนเกิดมามีพรสวรรค์ ความรู้ความสามารถไม่เหมือนกัน และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
  • เชื่อว่าพรสวรรค์อย่างเดียวเท่านั้นที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ พยายามไปก็เหนื่อยเปล่า
  • พยายามหลีกเลี่ยงปัญหา

คนที่มี Growth mindset

  • เชื่อว่าทักษาะการเรียนรู้และความฉลาดสามารถพัฒนาได้โดยต้องอาศัยเวลาและประสบการณ์
  • เมื่อเชื่อว่าคนเราสามารถฉลาดขึ้นได้ ก็จะมีความมั่นใจว่าความพยายามใดๆจะนำไปสู่ความสำเร็จได้ นั่นทำให้เค้าใช้เวลามากขึ้นในการทำเรื่องใดๆ จนนำไปสู่การประสบความสำเร็จ
  • มองว่าปัญหาคือโอกาส คือความท้าทาย

 

ทำไม Mindset หรือชุดความคิดจึงสำคัญ ??

ถ้าเรามีชุดความคิดแบบ fixed เราจะพยายามหลีกเลี่ยงทุกสถานการณ์ที่จะนำเราไปสู่การเปลี่ยนแปลงใดๆในทางบวก เพราะเราเชื่อว่า คนเรามันเปลี่ยนยาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง น้ำหนัก ความฉลาด ความรอบคอบในการทำงาน หรือนิสัยแย่ๆใดๆ ทำให้คุณมองว่ามันเสียเวลาเปล่า ที่จะไปเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้

ในทางกลับกันถ้าคุณเชื่อมั่นว่านิสัยของคุณสามารถแก้ไขได้ เติบโตได้ พัฒนาได้ (Growth Mindset) ความเชื่อนั่นแหละ จะนำไปสู่การพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ เช่น การเรียนรู้ skill ใหม่ๆ การฝึกภาษาใหม่ๆ หรือการเลิกทำนิสัยแย่ๆ

 

ไม่ต้องเสียใจไปนะ หากคุณรู้สึกตัวว่า เป็นหนึ่งในคนที่มีชุดความคิดแบบ Fixed มาดูวิธี 17 วิธีในการสร้าง Growth Mindset กัน

1.รับรู้และยอมรับจุดอ่อนของตัวเอง

เช่น บางครั้งคุณอาจจะรู้ว่าตัวเองเป็นคนขี้เกียจ และชอบทำงานส่งในนาทีสุดท้ายเสมอ ให้ลองวางแผนโดยตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้ และให้เวลากับตัวเองด้วย ในการบรรลุเป้าหมายนั้น วิธีการที่ง่ายที่สุดในการเอาชนะจุดอ่อนตัวเองคือให้ซื่อสัตย์กับตัวเองและจัดการกับมันซะ

2. มองทุกปัญหาให้เป็นโอกาส

คนเราจะเติบโตขึ้น เก่งขึ้น จากการฟันฝ่าหรือจัดการกับอุปสรรคต่างๆที่พระเจ้ายอมให้เกิดขึ้นในชีวิต ยิ่งเจอปัญหาหนักและผ่านมันได้ ก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ให้จำไว้เลยว่า ชีวิตที่เรียบง่ายไม่มีปัญหาใดๆ ก็เท่ากับชีวิตหยุดนิ่ง ไม่ได้เติบโตครับ

3.จับจุดตัวเองให้ได้ ว่าเราเหมาะกับการเรียนรู้แบบใด และปรับใช้มันซะ

เพราะบางคนอาจจะเรียนรู้ได้ไวกว่าคนอื่น บางคนชอบจด บางคนชอบทำซ้ำๆ  หรือบางคนสามารถเรียนรู้ได้จากการสอนผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน จับจุดให้ได้ แล้วคุณจะรับรู้ถึงประสิทธิภาพในการเรียนของตนเองครับ

4.จำไว้ว่าสมองของเราเปลี่ยนแปลงได้

ก็ต้องขอบคุณพระเจ้าที่ประทานสมองให้เรา และยังทำให้สมองของเราเนี่ย สามารถเรียนรู้ พัฒนาได้อีกด้วยเช่นกัน ดังนั้นให้เอาความคิดที่ว่า ก็ฉันเกิดมาสมองไม่ดี ออกไปจากหัวได้แล้วครับ

5.ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ แทนที่จะมัวแต่ไปรอการยอมรับจากคนอื่น

ยกตัวอย่างง่ายๆเลยนะครับ เวลาที่เราเรียนในห้องเรียน แล้วอาจารย์บอกให้ยกมือถาม หลายๆคนไม่กล้ายก เพราะกลัวว่าจะโดนคนอื่นมองว่าไม่เก่ง หรือไม่ตั้งใจเรียน จริงๆแล้วเป็นความเชื่อและวัฒนธรรมที่ผิดมากครับ คนที่กล้าถาม กล้ายอมรับในสิ่งที่ตนเองไม่รู้ โดยที่ไม่แคร์สายตาคนอื่น นั่นแหละคือคนที่จะเติบโตไปเป็นอัจฉริยะครับ

6.จดจ่อกับ Process มากกว่าผลลัพธ์

ให้สนุกกับช่วงเวลาที่คุณกำลังเรียนรู้สิ่งใหม่ๆครับ อย่าไปเครียดกับผลลัพธ์มากเกินไปครับ บางคนเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น จนทำให้จิตตก จิตใจเศร้าหมอง ผมมีคำแนะนำว่าให้เปรียบเทียบตัวเราเองกับเมื่อวานดีกว่าครับ เช่นถ้าวันนี้เรากำลังเรียน Revit อยู่ มันก็สุดยอดมากแล้ว เพราะเราเก่งขึ้นกว่าเมื่อวานไงครับ เดี๋ยวผลลัพธ์มันจะตามมาเองครับ

7.ใช้ชีวิตอย่างมีจุดหมาย

เรื่องนี้เป็นเรื่องยากครับ แต่เป็นสิ่งจำเป็น หากเราไม่รีบหาคำตอบของการใช้ชีวิตให้เจอ ว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร ทำงานทุกวันนี้ไปเพื่ออะไร สุดท้ายเราจะตกไปอยู่ในวังวนที่จำเป็นต้องทำงานตามสภาพแวดล้อมที่ประเดประดังเข้ามา หรือบางคนแย่หน่อย ตกหลุมพรางระบบทุนนิยม ที่ทำให้ตัวเองเป็นหนี้และหนีไปไหนไม่ได้จนต้องทำงานใช้หนี้ครับ ข้อนี้ขอหนุนใจให้ผู้อ่านทุกท่านได้พบกับพระเจ้าผู้สร้างโลกและจักรวาลครับ จากนั้นท่านจะพบกับจุดหมายในชีวิตของท่าน และใช้ชีวิตได้อย่างเติมเต็มครับ ขอพระเจ้าอวยพร

8.เลือกการเรียนรู้ที่ดี แทนที่การเรียนรู้เร็ว

บางครั้งไม่ต้องรีบร้อน หรือต้องไวความเร็วแสงเหมือนคนอื่นหรอกครับ ค่อยๆเรียนรู้ ค่อยๆจด ค่อยๆใคร่ครวญ เน้นประสิทธิภาพดีกว่าครับ

9.ชื่นชมในทุกความพยายาม

ให้ดีใจกับความสำเร็จแม้น้อยนิดครับ เช่น สมมติวันนี้เราไปทำงานได้ตรงเวลา ก็ให้ดีใจใจความพยายามนั้น อย่าไปคิดว่ามันคือเรื่องที่ใครๆก็ต้องทำอยู่แล้วครับ

เพราะหากเราดีใจและชื่นชมกับทุกความพยายาม ทุกๆความสำเร็จได้แล้วเนี่ย ชีวิตของท่านจะมีสันติสุข และดึงดูดแต่สิ่งดีๆเข้ามาแน่นอนครับ

10.เรียนรู้ที่จะวิจารณ์และรับคำวิจารณ์เชิงสร้างสรรค์

การรับคำวิจารณ์จากคนอื่น แน่นอนมันเจ็บปวด แต่ในทางกลับกัน มันก็ทำให้เราเติบโตด้วยครับ No Pain No Gain อีกอย่างเราต้องเรียนรู้ที่จะพูดความจริงด้วยความรัก และวิจารณ์เชิงสร้างสรรค์ด้วยนะครับ

11.การมีสิ่งที่ต้องปรับปรุงไม่ได้แปลว่าเราเป็นคนล้มเหลว

ในการทำงานของเรา แน่นอนแหละว่ามีสิ่งที่ต้องปรับปรุงอีกเยอะครับ แต่ถ้ามีคนเดินมาบอกคุณว่า คุณต้องปรับปรุงนะ ให้ดีใจครับ ที่มีคนมาชี้จุดอ่อนให้เรา นั่นไม่ได้หมายความว่าเราล้มเหลวนะครับ นั่นคือโอกาสที่เราจะเติบโตไปอีกขั้นไงครับ

12.ใคร่ครวญสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ในแต่ละวัน

เมื่อเราได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆแล้ว อย่าทำแค่จดไว้ แล้วก็ปล่อยผ่านครับ ลองหาเวลาพักสงบ หยิบสิ่งที่จดไว้ขึ้นมาทบทวน มาใคร่ครวญ และค่อยๆซึมซับความรู้ใหม่ๆนั้นครับ ลองทำดูแล้วจะพบว่าเรามีประสิทธิภาพในการเรียนรู้สูงขึ้นมากเลยล่ะครับ

13.เรียนรู้จากความผิดพลาดของผู้อื่น

ข้อนี้ตรงไปตรงมา และถือเป็นทางลัดในการเรียรู้ที่ดีมากๆครับ เห็นช้างล้มอย่าล้มตามช้างนะ อิอิ

14.ให้คิดว่าการเรียนรู้ คือ การฝึกสมอง

ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้เรื่องใด จะเป็น BIM Software จะเป็นการฝึกร้องเพลง ฝึกทำอาหาร ก็ขอแสดงความดีใจด้วยนะ สมองของเรากำลัง exercise อยู่นั่นเอง

15.ตั้งเป้าหมายเล็กๆในแต่ละวัน และชื่นชมความสำเร็จนั้น

บางครั้งการจะไปรอให้บรรลุเป้าหมายใหญ่เลย หลายคนคงหมดแรงกายแรงใจไปก่อน ดังนั้นการซอยเป้าหมายให้เป็นเป้าหมายเล็กๆ และดื่มด่ำกับความสำเร็จในแต่ละวัน จะทำให้เรามีแรงในการเดินหน้าล่าเป้าหมายวันใหม่ได้ครับ

16.อย่าหยุดการเรียนรู้ ให้ตั้งเป้าหมายใหม่เสมอเมื่อคุณสำเร็จสิ่งใด

ความสำเร็จอยู่ใดแค่วันเดียว เหมือนที่คุณธนินทร์ แห่ง CP พูดไว้เลยครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะหยุดพักไม่ได้นะ ให้เวลากับตัวเองในการหยุดพักหายใจบ้าง จะได้มีแรงลุยเป้าหมายใหม่ต่อไปครับ

17.การเรียนรู้นั้นใช้เวลา

เราไม่ใช่คอมพิวเตอร์ที่จะดาวน์โหลดข้อมูลใส่สมองแล้วจะทำได้เลย เราต้องใช้เวลาในการเรียน ทดลอง ล้มเหลว ทดลองซ้ำ จนเกิดเป็นประสบการณ์นั่นเอง ข้อนี้ก็ขอหนุนใจให้กับองค์กรที่อยากจะผลักดันการใช้งาน BIM ด้วยนะครับ ว่า การเรียนรู้ ต้องใช้เวลาครับ สู้ๆ

ด้วยความปรารถนาดีจาก Tesla BIM X 🙂

You may also like...

Popular Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *